ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
รับชม
1,838
ทำไมต้องตรวจ?💡
โรคมะเร็งเป็นโรคที่พบได้มากที่สุดในสตรีเป็นอับดับ 2 ของโลก โดยเฉพาะมะเร็งในหญิงตั้งครรภ์ โดยส่วนใหญ่จะพบในอายุประมาณ 30-35 ปี ซึ่งจะพบโรคได้ในระยะแรกหากมีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเมื่อมาฝากครรภ์
ตรวจอย่างไร?💉
การตรวจมะเร็งปากมดลูกสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้
Pap smear (conventional Pap smear)
เป็นการเก็บเซลล์จากปากมดลูกด้วยการป้ายลงบนแผ่นสไตลด์ หลังจากนั้นจะแช่แผ่นสไลด์ในน้ำยาและทำการส่งตรวจ ในการตรวจด้วยวิธีนี้สามารถตรวจพบมะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มต้นได้ประมาณ 53 % เนื่องจากเซลล์อาจมีการซ้อนทับกัน หรืออาจมีมูกเลือดบัง ทำให้อ่านผลได้ยากนั่นเองค่ะ
ThinPrep (liquid based thin layer preparation Nanda)
วิธีนี้เป็นการเก็บเซลล์จากปากมดลูกโดยการใช้ไม้กวาดยาง แล้วมาแกว่งในน้ำยาตินเพร็บ ซึ่งจะสามารถละลายมูกเลือดและเม็ดเลือดแดงได้ทำให้สามารถค้นหาเซลล์มะเร็งได้ง่ายขึ้น วิธีนี้สามารถตรวจพบมะเร็งปากมดลูกระยะเริ่มต้นได้ประมาณ 74% เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงและควรทำหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกผ่านมา 3 ปี
ThinPrep plus HPV
วิธีนี้สามารถตรวจพบมะเร็งปากมดลูกระยะเริ่มต้นได้ 100% เป็นการนำเซลล์ปากมดลูกไปตรวจหา DNA ของไวรัส HPV กลุ่มความเสี่ยงสูง 14 สายพันธุ์ โดยวิธีนี้จะเหมาะกับผู้มีปัจจัยเสี่ยง หรือ คุณแม่ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปค่ะ
TMI จาก BabyBilly👩⚕️:
จากสถิติจะพบว่าผู้หญิงไทยตรวจพบมะเร็งปากมดลูกเฉลี่ยปีละ 6,000 คนเลยทีเดียว โดยความน่ากลัวของโรคมะเร็งปากมดลูกนั่นมักจะไม่มีอาการแสดงจนเข้าสู่ระยะท้ายๆ แม้ว่าเชื้อ HPV จะเข้าสู่ปากมดลูกแล้วก็ตามค่ะ เมื่อพบว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก แพทย์อาจจำเป็นต้องตัดมดลูกทิ้งเพื่อป้องกันการลุกลามของเชื้อไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคุณแม่ควรหมั่นตรวจมะเร็งปากมดลูกตามที่คุณหมอแนะนำนะคะ

ดาวน์โหลดแอป Baby Billy และ พบกับบทความที่มีเนื้อหาหลากหลายมากขึ้น

